วันที่นำเข้าข้อมูล 3 มี.ค. 2564
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 27 พ.ย. 2565
เพื่อให้สอดคล้องกับระบบการสื่อสารของสื่อมวลชนในระดับสากลที่ได้เปลี่ยนแปลงไป กระทรวงการต่างประเทศจึงปรับปรุงแนวทางการพิจารณาการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราวสำหรับสื่อมวลชนต่างประเทศทั่วไป รหัส “M” (Media Visa) และราชการ รหัส “F” (Official Visa) สำหรับสื่อมวลชนทางการของต่างประเทศที่ประสงค์จะเดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๙๐ วัน ทั้งนี้ คำว่า “องค์กรสื่อมวลชน” ในที่นี้ให้รวมถึง สำนักข่าว/หน่วยงานหรือบริษัทตัวแทนด้านสื่อในรูปแบบเดิมและสื่อออนไลน์ที่มีความน่าเชื่อถือที่ได้จดทะเบียนจัดตั้งสำนักงานอย่างถูกต้องกับหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลในประเทศไทยหรือในต่างประเทศ และมีผู้รับชมและผู้ติดตามเป็นจำนวนมากโดยมีหลักเกณฑ์การพิจารณาความเหมาะสมสำหรับผู้สื่อข่าวที่มีสิทธิ์ยื่นขอรับการตรวจลงตรา ดังนี้
๑. ต้องอยู่ในสังกัดหรือว่าจ้างโดยองค์กรสื่อมวลชนที่มีความน่าเชื่อถือซึ่งจดทะเบียนจัดตั้งสำนักงานอย่างถูกต้องกับหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแลในประเทศไทยหรือ
ในต่างประเทศอย่างน้อยเป็นเวลา ๖ เดือน นับถึงวันยื่นขอรับการตรวจลงตรา
๒. ได้รับการว่าจ้างให้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะสื่อมวลชนเท่านั้น โดยไม่ประกอบอาชีพอื่นระหว่างช่วงเวลาที่พำนักในประเทศไทย
๓. ปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชนในประเทศไทยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๙๐ วัน และผลิตผลงาน
ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประเทศไทยหรือภูมิภาคไม่น้อยกว่า ๑๐ ผลงานต่อปี
๔. ต้องไม่มีผลงานหรือพฤติการณ์ที่น่าเชื่อว่าเป็นเป็นภัยต่อสังคม ความสงบสุขหรือ
ความปลอดภัยของประชาชน หรือเป็นบุคคลที่รัฐบาลต่างประเทศต้องการตัวและ
ได้ออกหมายจับ
๕. ต้องไม่เคยมีประวัติเป็นผู้บิดเบือนข้อมูลในการขอรับการตรวจลงตรา
การพิจารณาอนุมัติการตรวจลงตราอยู่ในดุลยพินิจของกระทรวงการต่างประเทศเป็นรายกรณี
หมายเหตุ
ในกรณีสื่อมวลชนรายใดที่ได้รับการตรวจลงตราแล้ว และต่อมาไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่กับองค์กรสื่อมวลชนตามที่ระบุไว้ตามการขอรับการตรวจลงตรา สื่อมวลชนผู้นั้นต้องดำเนินการยกเลิก
การตรวจลงตรา ใบอนุญาตทำงาน และบัตรผู้สื่อข่าวที่ได้รับกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที
หากสื่อมวลชนไม่สามารถต่ออายุการตรวจลงตราด้วยมีเหตุสุดวิสัย สื่อมวลชนผู้นั้นต้องยื่นขอรับการตรวจลงตราใหม่ทั้งหมด
การมีผลบังคับใช้
แนวทางการพิจารณาการตรวจลงตราฉบับนี้ใช้กับสื่อมวลชนที่ยื่นขอรับการตรวจลงตรา ประเภทคนอยู่ชั่วคราว รหัส “M” และ ราชการ รหัส “F” ต่อกระทรวงการต่างประเทศตั้งแต่วันที่
๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๔ เป็นต้นไป
เอกสารประกอบการพิจารณาการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว รหัส “M” และราชการ รหัส “F”
๑. สำเนาหนังสือเดินทางของสื่อมวลชน (มีอายุไม่น้อยกว่า ๖ เดือน)
๒. หนังสือรับรองผู้สื่อข่าวที่ยื่นขอรับการตรวจลงตราจากสำนักงานใหญ่ขององค์กรสื่อมวลชนถึงอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ประเทศไทย ระบุข้อมูลดังต่อไปนี้
๒.๑ ตำแหน่งของสื่อมวลชน
๒.๒ ขอบเขตงานในหน้าที่รับผิดชอบ
๒.๓ ระยะเวลาการจ้างงานในประเทศไทย
๒.๔ การขอรับประเภทการตรวจลงตรา และ
๒.๕ การขอรับใบอนุญาตทำงาน และ/หรือบัตรผู้สื่อข่าว
๓. ประวัติส่วนตัวของสื่อมวลชน (CV)
๔. ข้อมูลองค์กรสื่อมวลชน (company profile)
๕. หลักฐานการจดทะเบียนจัดตั้งองค์กรสื่อมวลชนในไทยหรือในต่างประเทศกับหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแล
๖. สำเนาหนังสือสัญญาการว่าจ้าง (หากมี)
๗. ใบรับรองว่าไม่มีประวัติด้านอาชญากรรมของสื่อมวลชน ออกโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศที่สื่อมวลชนมีถิ่นพำนักถาวร
๘. ผลงานของสื่อมวลชนล่าสุดอย่างน้อย ๑๐ ผลงาน
* * * * *
เอกสารประกอบการพิจารณาต่ออายุการตรวจลงตราประเภทคนอยู่ชั่วคราว รหัส “M” และราชการ รหัส “F”
๑. สำเนาหนังสือเดินทางของสื่อมวลชน (มีอายุไม่น้อยกว่า ๖ เดือน)
๒. หลักฐานการตรวจลงตราที่ได้รับจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
๓. ใบอนุญาตทำงาน
๔. บัตรผู้สื่อข่าว (หากมี)
๕. หนังสือรับรองผู้สื่อข่าวที่ยื่นขอรับการตรวจลงตราจากสำนักงานใหญ่ขององค์กรสื่อมวลชนถึงอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ประเทศไทย ระบุข้อมูลดังต่อไปนี้
๕.๑ ตำแหน่งของสื่อมวลชน
๕.๒ ขอบเขตงานในหน้าที่รับผิดชอบ
๕.๓ ระยะเวลาการจ้างงานในประเทศไทย
๕.๔ การขอรับประเภทการตรวจลงตรา และ
๕.๕ การขอรับใบอนุญาตทำงาน และ/หรือบัตรผู้สื่อข่าว
๖. ประวัติส่วนตัวของสื่อมวลชน (CV)
๗. ข้อมูลองค์กรสื่อมวลชน (company profile)
๘. หลักฐานการจดทะเบียนจัดตั้งองค์กรสื่อมวลชนในไทยหรือในต่างประเทศกับหน่วยงานที่มีอำนาจกำกับดูแล
๙. ใบรับรองว่าไม่มีประวัติด้านอาชญากรรมของสื่อมวลชน ออกโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ในประเทศที่สื่อมวลชนมีถิ่นพำนักถาวร
๑๐. ผลงานของสื่อมวลชนล่าสุดอย่างน้อย ๑๐ ผลงาน
๑๑. หลักฐานแสดงรายได้และการเสียภาษีในไทยในกรณีที่ผู้สื่อข่าวต่างประเทศมีเงินได้พึงประเมิน
* * * * *
เวลาทำการ: วันจันทร์ - วันศุกร์ 09:00 - 12.00 น. และ 13:00 - 17.00 น. (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์)